ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ยกระดับ “วีซ่าพำนักยาว” ปลุกยอดสมาชิกใหม่

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือ ทีพีซี ผู้ดำเนินโครงการบัตรสมาชิก Thailand Elite Card หรือ “อีลิท การ์ด” ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เติบโตอย่างต่อเนื่อง

และมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนในความเป็นผู้นำในด้านเอกสิทธิ์ทางด้านวีซ่าพำนักระยะยาว

เช่นเดียวกับปี 2566 ที่มียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 11,846 ราย หรือเพิ่มขึ้น 108%

“มนาเทศ อันนวัฒน์” ประธาน “ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด” บอกว่า ยอดสมาชิกที่เพิ่มขึ้นช่วยสร้างรายได้และกระตุ้นเม็ดเงินเข้าประเทศรวมกว่า 38,000 ล้านบาท และตอกย้ำศักยภาพและโอกาสการเติบของธุรกิจ

สะท้อนถึงภาพการเป็นองค์กรที่มีบทบาทในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในปีที่ผ่านมา รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในการเป็นเอกสิทธิ์ทางด้านวีซ่าพำนักระยะยาวระดับโลก ที่มอบสิทธิพิเศษในทุกมิติ ตอบโจทย์สมาชิกอย่างครอบคลุม

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ต่างจากคู่แข่งมี 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การเป็นผู้ให้บริการวีซ่าระยะยาวสูงสุด 20 ปีขึ้นไปแก่ชาวต่างชาติที่ต้องการพำนักในประเทศไทย 2.การให้บริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สนามบินหลักของประเทศ

และ 3.การให้บริการสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ของสมาชิก อาทิ สิทธิประโยชน์ทางด้านที่พัก การเดินทาง สันทนาการ การดูแลสุขภาพ และการสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน

“นับเป็นความสำเร็จอย่างมากหลังจากเราปรับโฉมองค์กรด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์บัตร Thailand Privilege Card 4 แพ็กเกจใหม่ในปีที่ผ่านมา ทำให้มียอดสมาชิกในปี 2566 รวมทั้งสิ้น 31,231 ราย โดยกลุ่มสัญชาติสมาชิก 5 อันดับแรกคือ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และรัสเซีย”

สำหรับในปี 2567 นี้ “มนาเทศ” บอกว่า ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ยังคงมุ่งหน้าขยายฐานจำนวนสมาชิกไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้งประเทศจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน รัสเซีย และยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯ

รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ อาทิ อินเดีย ตะวันออกกลาง หรือกลุ่ม LGBTQIA+ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง

และยังคงมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และสิทธิประโยชน์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับภายใต้คอนเซ็ปต์ Long-term Visa with More Privileges ผู้นำด้านเอกสิทธิ์ทางด้านวีซ่าพำนักระยะยาวระดับโลกด้วยกลยุทธ์ MORE ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายในทุกมิติ

ประกอบด้วย M : Member Centric ศึกษาความพึงพอใจและความต้องการสมาชิก เพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และสิทธิประโยชน์ นำเสนอบริการและสิทธิประโยชน์ที่จากพันธมิตรคู่ค้ากว่า 300 แห่ง ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ อาทิ Stay, Travel, Leisure, Health & Well-being และ Wealth

O : Opportunity ศึกษาช่องทางและโอกาสใหม่ในการขยายตลาดและฐานสมาชิกอยู่เสมอ อาทิ การสรรหาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือ GSSA ใหม่ ๆ เพื่อขยายตลาด เพิ่มยอดขายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

R : Responsibility มีความรับผิดชอบและธรรมาภิบาลต่อสังคม สิ่งแวดล้อม พนักงาน ผู้ถือหุ้น พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders)

และ E : Excellence มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการองค์กร (Operational Excellence) และการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพการทำงาน (Digital Excellence) รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรสู่ความเป็นเลิศ (People Excellence)

ปัจจุบันบัตรสมาชิก ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.GOLD อัตราค่าธรรมเนียม 900,000 บาท อายุการเป็นสมาชิก 5 ปี 2.PLATINUM อัตราค่าธรรมเนียม 1.5 ล้านบาท อายุการเป็นสมาชิก 10 ปี 3.DIAMOND อัตราค่าธรรมเนียม 2.5 ล้านบาท อายุการเป็นสมาชิก 15 ปี

และ 4.RESERVE อัตราค่าธรรมเนียม 5 ล้านบาท อายุการเป็นสมาชิก 20 ปี++ โดยเป็นบัตรเพียงประเภทเดียวที่ผู้สมัครต้องได้รับการเชิญเท่านั้น และจำกัดจำนวนสมาชิกปีละไม่เกิน 100 ท่าน

จากแผนกลยุทธ์นี้ทำให้เชื่อว่า ในปี 2567 ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือ “อีลิท การ์ด” จะสามารถตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำระดับโลกทางด้านวีซ่าพำนักระยะยาว และสิทธิประโยชน์ที่เหนือระดับ

และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายมียอดสมาชิกกว่า 39,000 ราย คิดเป็นการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้ประเทศกว่า 50,000 ล้านบาท

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ยกระดับ “วีซ่าพำนักยาว” ปลุกยอดสมาชิกใหม่

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-03-24T12:15:26Z dg43tfdfdgfd