“อิมแพ็ค” ผู้ใช้บริการทะลัก เล็งลงทุนเพิ่มพื้นที่รองรับ

“อิมแพ็ค” เผยตัวเลขนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวใช้บริการมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี เร่งขยายพื้นที่รองรับ พร้อมทบทวนแผนพัฒนาพื้นที่ริมทะเลสาบรับรถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าโครงการ 2 สถานี คาดเสร็จกลางปีหน้า ชูจุดขายพื้นที่ใหญ่ รองรับการจัดงานทุกประเภท หนุนกระแสซอฟต์พาวเวอร์ ดันประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานระดับโลก

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี มีโอกาสต้อนรับนักธุรกิจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่มากกว่า 10 ล้านคนต่อปี

โดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดงานใหญ่ ทั้งในกลุ่มงานอินเซนทีฟ เอ็กซิบิชั่น คอนเสิร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อาทิ THAIFEX-Anuga Asia, World Hindu Congress คอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลกที่เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดแสดง ฯลฯ เป็นต้น

นายพอลล์กล่าวว่า จากแนวโน้มนี้ทำให้อิมแพ็ค เมืองทองธานี ต้องเตรียมแผนการลงทุนเพื่อขยายพื้นที่เพิ่มเติม รวมถึงทบทวนแผนการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน หรือ “มิกซ์ยูส” บริเวณที่ดินริมทะเลสาบประมาณ 300 ไร่ (จากที่ดินทั้งหมดกว่า 4,000 ไร่) ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับกับการลงทุนสำหรับเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่จะต่อขยายเข้าในพื้นที่ของอิมแพ็ค เมืองทองธานี จำนวน 2 สถานี โดยสถานีแรกคือ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และสถานีที่สองคือ ริมทะเลสาบเมืองทอง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปีหน้าด้วย

“เมื่อโครงการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าอิมแพ็คฯ เสร็จจะทำให้ลูกค้าและผู้ใช้บริการศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เดินทางไปยังพื้นที่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกขึ้น”

ทั้งนี้ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในฐานะสถานที่จัดงานขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของเอเชีย ได้พัฒนาศักยภาพมาอย่างต่อเนื่องในทุกมิติทางการพัฒนาพื้นที่บริการเพื่อให้ตอบโจทย์รองรับการจัดงานได้อย่างหลากหลายในทุกประเภทงาน ทั้งเอ็กซิบิชั่นเทรด เอ็กซิบิชั่นคอนซูเมอร์ อินเซนทีฟ รวมถึงคอนเสิร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์อีเวนต์รูปแบบใหม่ ๆ

“วันนี้เราพร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสร้างประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานระดับโลก ผ่านจุดแข็งของศูนย์ ด้วยพื้นที่การจัดงานกว่า 140,000 ตารางเมตร สามารถรองรับเมกะอีเวนต์ทุกรูปแบบ เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่มุ่งใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมยกระดับเศรษฐกิจไทย”

และสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์เป้าหมายทั้ง 10 สาขา อาทิ การท่องเที่ยว อาหาร ศิลปะ เฟสติวัล กีฬา ฯลฯ ซึ่งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ (Meeting, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและผลักดันยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางการจัดอีเวนต์ระดับเอเชีย และจะทำให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศให้สูงขึ้นอีกด้วย

ขณะเดียวกันก็มีแนวคิดในการสร้างสรรค์เฟสติวัลรูปแบบใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น เทศกาลอาหาร “อิมแพ็คXเชลล์ชวนชิม” ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม-7 เมษายนที่ผ่านมา งานเทศกาลว่าวที่ใหญ่ที่สุดในไทย “Kite on the Lake” ที่จะจัดขึ้นวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2567 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี เพื่อสืบสานวัฒนธรรม ส่งเสริมกีฬาพื้นบ้านของไทย เป็นต้น

“ตอนนี้คนไทยเข้าใจเรื่องซอฟต์พาวเวอร์มากขึ้น ทั้งในเรื่องของภาพยนตร์ แฟชั่น อาหารไทย ฯลฯ ทั้งหมดนี้สามารถนำมาสร้างมูลค่าในมิติการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ได้ดี สามารถนำไปต่อยอดทำให้เกิดการสร้างมูลค่าได้ ซึ่งอิมแพ็ค เมืองทองธานี ก็พร้อมผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นรูปธรรมเช่นกัน”

นายพอลล์กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดจองการจัดงานทุกประเภทรวม 1,551 งาน สำหรับยอดจองพื้นที่โดยรวมในปี 2567 นี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคอนเสิร์ตที่มีแนวโน้มจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน

ขณะที่ครึ่งปีหลังในปีนี้ยอดจองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มคอนเสิร์ต ซึ่งพื้นที่ไฮไลต์อย่างอิมแพ็ค อารีน่า ถูกจองเต็มหมดแล้ว ทำให้ต้องขยายพื้นที่ไปยังอาคารอื่น ๆ เช่น งานดนตรีเฟสติวัลระดับโลก “Summer Sonic Bangkok 2024” ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เป็นต้น

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “อิมแพ็ค” ผู้ใช้บริการทะลัก เล็งลงทุนเพิ่มพื้นที่รองรับ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-04-14T11:56:30Z dg43tfdfdgfd