“ท่องเที่ยวกระบี่” ฟื้นยกแผง ลุ้นแอร์ไลน์เพิ่มไฟลต์บินอินเตอร์

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ระบุว่า ปี 2562 จังหวัดกระบี่มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 119,419 ล้านบาท คิดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ปี 2566 มีรายได้รวม 52,500 ล้านบาท หรือฟื้นตัวกลับมาได้ประมาณ 50%

เป็นจังหวัดศูนย์กลางของกลุ่มจังหวัดอันดามัน สามารถเชื่อมโยงได้ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย และกระจายการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวก มีทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยวที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ และหลากหลาย มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพสูง

ท่องเที่ยวฟื้นยกแผง

“ศศิธร กิตติธรกุล” นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ในขณะนี้ ถือว่ากลับมาได้ค่อนข้างดีมาก โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาฟื้นกลับมาได้ครึ่งหนึ่ง โดยมีรายได้รวมประมาณ 52,000 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมประมาณ 120,000 ล้านบาท

“ศศิธร” บอกว่า การท่องเที่ยวกระบี่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ธุรกิจโรงแรมเริ่มมีอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยประมาณ 70% และดีต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา โดยในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พื้นที่ในจุดท่องเที่ยวหลัก เช่น อ่าวนาง ไร่เลย์ เกาะพีพี เกาะลันตา อัตราการเข้าพักเฉลี่ยขยับได้ถึง 80-90%

“ตอนนี้ห้องพักในกระบี่เปิดอยู่ประมาณ 24,000 ห้อง ใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งสะท้อนว่าการฟื้นตัวกลับมา 100% แล้ว รวมถึงโรงแรมขนาดเล็ก”

เรียกว่า เป็นการฟื้นตัวอย่างทั่วถึงและกระจายไปในทุกกลุ่ม ไม่ใช่ฟื้นเฉพาะตลาดลักเซอรี่ หรือเฉพาะแค่โรงแรม 4-5 ดาวเหมือนในจังหวัดท่องเที่ยวอื่น

เช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน เช่น อ่าวมาหยา ปกติมีรายได้ค่าเข้าอุทยานฯปีละประมาณ 600 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้ประมาณ 200 กว่าล้านบาท แต่เพียงแค่ 2 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2567) รายได้กลับมา 200 กว่าล้านบาทแล้ว หรือเทียบเท่ากับปีที่แล้วทั้งปี

การใช้จ่ายต่อหัวลดลง

“ศศิธร” ให้ข้อมูลด้วยว่า ด้วยเทรนด์ของการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ออกเดินทางในปัจจุบันเป็นกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง หรือ FIT ทำให้ตลาดโดยรวมเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT

กล่าวคือ กลุ่มนี้จะไม่ใช้จ่ายในโรงแรมหรือร้านอาหารขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า All Inclusive แต่นิยมใช้จ่ายที่หลากหลาย เช่น หันไปกินอาหารในกลุ่มสตรีตฟู้ด ซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

ทำให้การใช้จ่ายต่อวันต่อคนที่เก็บสถิติได้ลดลงเหลือประมาณ 4,000-5,000 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่อยู่ในระดับประมาณ 6,000-7,000 บาทต่อวันต่อคน

“ส่วนตัวยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มไฮเอนด์ มีกำลังซื้อ เพราะจากพฤติกรรมจะเห็นว่าวันนี้นักท่องเที่ยวนิยมพักโรงแรมหรู หรือไม่ก็เป็นวิลล่า ทำอาหารกินเอง เพราะสะดวกสบาย แต่ที่เห็นตัวเลขในเชิงสถิติลดลงน่าจะเป็นเพราะมีการใช้จ่ายที่กระจายและหลากหลายช่องทางที่เราไม่สามารถเก็บสถิติเชิงตัวเลขได้”

ไฟลต์บินอินเตอร์ทยอยเพิ่ม

สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวนั้น “ศศิธร” บอกว่า ปี 2562 จังหวัดกระบี่มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 6.9 ล้านคน แบ่งเป็นชาวต่างชาติประมาณ 4.9 ล้านคน โดยจีนครองอันดับ 1 เหมือนกับภาพรวมของประเทศ และคนไทยอีกประมาณ 2 ล้านคน

ในปี 2566 นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวกระบี่รวมประมาณ 4 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก

สำหรับปี 2567 นี้ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ระบุว่า เดือนมกราคมที่ผ่านมา จังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 394,564 คน เพิ่มขึ้น 60.72% เป็นชาวต่างชาติ 219,653 คน เพิ่มขึ้น 160.56% และคนไทย 174,911 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 8.50% มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.30%

ขณะที่โรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ 79.52% (ห้องพักจำนวน 24,287 ห้อง)

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรก ประกอบด้วย สวีเดน มาเลเซีย โปแลนด์ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี โดยปัจจุบันเที่ยวบินเริ่มทยอยเพิ่มมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นเส้นทางบินภายในประเทศ ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศยังกลับมาได้ไม่มากนัก เช่น เส้นทางจากจีนก่อนโควิดเคยบินมาจาก 5-6 เมือง แต่วันนี้ยังไม่กลับมา (ดูตารางประกอบ)

“ศศิธร” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจุบันสนามบินกระบี่มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 8 ล้านคนต่อปี แต่มี Scheduled Flight บินมาลงแค่วันละ 5-6 เที่ยวบินต่อวัน ถือว่ายังต่ำกว่าศักยภาพการรองรับมาก ซึ่งสมาคมได้รายงานปัญหานี้ให้นายกฯเศรษฐาแล้ว เมื่องาน ITB 2024 ที่ผ่านมา

“หลังได้รับรายงานปัญหา ท่านนายกฯได้สั่งการให้ผู้บริหาร ทอท.ดำเนินการหาสายการบินมาลงจังหวัดกระบี่เพิ่มทันที ซึ่งเราก็คาดหวังว่าทุกอย่างจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น”

“รถเช่า-เรือเช่า” ไม่พอรองรับ

“ศศิธร” บอกด้วยว่า จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว บวกกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป ทำให้ซัพพลายไซด์บางเซ็กเตอร์ไม่พอรองรับ เช่น จากข้อมูลปี 2564 (ช่วงโควิด) จังหวัดกระบี่เก็บข้อมูลรถเช่าและเรือเช่าพบว่า มีรถเช่าที่จดทะเบียนอยู่ราว 2,660 คัน และเรือที่จดทะเบียนประมาณ 2,000 ลำ

ปัจจุบันจำนวนรถเช่าและเรือเช่าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายได้ทยอยลงทุนเพิ่มทั้งรถเช่าและเรือเช่าไปแล้วประมาณ 20%

และย้ำว่า จุดขายหลักของกระบี่ยังคงเป็นเรื่องของ Sea Sand Sun และปัจจุบันได้เพิ่มเรื่องเวลเนสและกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Ecofriendly) และเรื่องของความยั่งยืนเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ในอนาคตด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ท่องเที่ยวกระบี่” ฟื้นยกแผง ลุ้นแอร์ไลน์เพิ่มไฟลต์บินอินเตอร์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-03-21T08:53:33Z dg43tfdfdgfd