ครม.ดันท่องเที่ยวเหนือ ตั้งสำนักงานพะเยา ดึงจีน-ญี่ปุ่น

ครม.สัญจร อนุมัติงบส่งเสริมการท่องเที่ยว 4 ภาคเหนือ พะเยา เชียงราย แพร่ น่าน เดินหน้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ “สุดาวรรณ” รมว.ท่องเที่ยว ผู้ว่า ททท.ประสานเสียง ดันพะเยาเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

วันที่ 19 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 จังหวัดพะเยา ว่า ครม.อนุมัติตั้งสำนักงาน ททท. จ.พะเยา ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อยกระดับจังหวัดพะเยาจากเมืองรองสู่เมืองหลัก

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคมและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดพะเยาให้มากขึ้น พร้อมกันนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดพะเยา ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 ตลอดจนให้มีการศึกษาเพื่อประกาศให้จังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวให้เข้าสู่จังหวัดพะเยามากขึ้น และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายให้มีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีหลายโครงการที่ต้องการการผลักดันและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองสุขภาพดี เมืองแห่งชาและกาแฟ และเมืองแห่งกีฬา

ขณะที่จังหวัดพะเยาจะส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยร่วมมือกับเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและภาคเอกชนผลักดันกิจกรรมการท่องเที่ยวสีขาวที่มีองค์ประกอบของความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้ BCG Economy Model ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและอาหาร รวมถึงนำการแข่งขันกีฬาในระดับประเทศมาจัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับจังหวัดน่านจะขับเคลื่อนสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก และพัฒนาชุมชนในจังหวัดน่านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ขณะที่จังหวัดแพร่จะมีการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้สนองตอบต่อการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด ตลอดจนส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านด่านบ้านฮวก จังหวัดพะเยาเพื่อการเดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลให้ขยายวันพักในจังหวัดพะเยาให้มากขึ้น

คาดว่าแนวโน้มปี 2567 การท่องเที่ยวในภาคเหนือจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน สูงกว่าปี 2566 ที่มีนักท่องเที่ยว 39.48 ล้าน

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการจังหวัดพะเยา มีมติอนุมัติหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 2 ประกอบด้วย พะเยา เชียงราย แพร่ น่าน รวม 4 โครงการ 51 ล้านบาท

ซึ่งในกลุ่มจังหวัดนี้ได้มีการหารือกันก่อนว่าจะมุ่งเน้นเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) หรือแม้แต่เรื่องการเกษตรที่ได้รับอนุมัติก็เกี่ยวโยงกับการเกษตรอินทรีย์ที่จะนำมาส่งเสริมการท่องเที่ยวได้

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า หากมีการเปิดด่านสากล บ้านฮวก จะสามารถรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติได้มากขึ้น ซึ่งภาคเหนือมีจุดเด่นหลากหลาย เช่น เส้นทางสายศรัทธา ซึ่งเป็นที่ชืี่นชอบนักท่องเที่ยวจีน เส้นทางสายสุขภาพ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบชาวลาว เมียนมา ส่วนญี่ปุ่นชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และเส้นทางสายอาหาร และวัฒนธรรม

ทั้งนี้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีความจำเป็นต้องบูรณาการทำงานหลายกระทรวงร่วมกัน ลำพังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไม่สามารถทำงานเองได้ เมื่อหน่วยงานเจ้าของเรื่องได้รับงบประมาณไปดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ทาง ททท.ก็สามารถช่วยต่อยอดในเรื่องของการส่งเเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ได้ และไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ที่ ครม.ไปจัดประชุม แต่รวมถึงทุกพื้นที่ด้วย เพราะ ททท.ต้องการให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว 365 วัน

น.ส.สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ในการส่งเสริมตลาดในประเทศใหม่ เพื่อช่วยกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือประสบปัญหาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จนนักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง โดยจะนำงบประมาณประจำปี 2567 ที่เริมใช้ได้ในเดือน พ.ค. มาทำการตลาดในรูปแบบของโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินในประเทศ จะช่วยให้ราคาค่าโดยสารถูกลง และเพื่อให้เกิดไฮซีซั่นในฤดูฝน ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการเที่ยววันธรรมดาเพิ่มขึ้น โดยร่วมกับอโกด้าจัดราคาที่พักมีส่วนลดพิเศษ เริ่มในเดือน พ.ค.นี้เช่นกัน และทำให้ปี 2567 เป็นปีที่เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ในช่วงเดือน มี.ค.ยอดนักท่องเที่ยวปรับตัวลงอย่างมากและจะต่อเนื่องไปถึง เม.ย.จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งปกติในช่วงนี้ต้องมียอดจองห้องพัก 70-80% ของจำนวนห้องพักในจังหวัดที่มี 18,000 ห้องจากโรงแรมประมาณ 600 แห่ง แต่กลับพบว่าลดลงประมาณ 37.5% เหลือยอดการจองห้องพักเพียง 50% จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ครม.ดันท่องเที่ยวเหนือ ตั้งสำนักงานพะเยา ดึงจีน-ญี่ปุ่น

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-03-19T08:03:41Z dg43tfdfdgfd